โครงการให้คำปรึกษาเพื่อปรับปรุงผลการดำเนินการขององค์กร(Performance Improvement Consulting Program)

โครงการฝึกอบรม พร้อมให้คำปรึกษาและCoaching
การปรับปรุงผลการดำเนินการขององค์กร(Performance Improvement Consulting Program) 

ในปัจจุบันนี้ องค์กรต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตนเองให้มีความแข็งแรงมากยิ่ง ๆขึ้นเพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนสูงและมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆอยู่ตลอดเวลา   การปรับปรุงงานในด้านต่าง ๆรวมถึงผลการดำเนินธุรกิจโดยรวมขององค์กรภายใต้สภาวะดังกล่าวนี้ถือได้ว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้บริหารและบุคลากรทุกคนในองค์กร



ในการปรับปรุงผลการดำเนินการในด้านต่างขององค์กรให้ดีขึ้นนั้น  แต่ละองค์กรมีจุดเริ่มต้นและมีความพร้อมที่แตกต่างกันออกไปเช่น บางองค์กรอาจจะกำลังประสบกับภาวะวิกฤติหรือมีแนวโน้มว่าจะเกิดวิกฤติขึ้นขึ้น  แต่บางองค์กรอาจจะอยู่ในสภาวะที่ดีอยู่แต่มองเห็นถึงศักยภาพและความเป็นไปได้ในการยกระดับผลการดำเนินธุรกิจให้ดีขึ้น เป็นต้น

Our Services:


โครงการให้คำปรึกษาเพื่อปรับปรุงผลการดำเนินการขององค์กร(Performance Improvement Consulting Program) ดังกล่าวนี้จะให้คำปรึกษาแก่องค์กรในด้านต่าง ๆตามความต้องการของแต่ละองค์กร อาทิเช่น
  • การปรับปรุงผลดำเนินการทางธุรกิจให้แก่องค์กร (Business Performance Improvement)  เป็นการปรับปรุงองค์กรโดยรวมให้มีความสามารถในการบรรลุผลสำเร็จทั้งตามเป้าหมายในระยะสั้นเช่นการเพิ่มยอดขายและผลกำไร และเป้าหมายในระยะยาวเช่นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน เป็นต้น
  • การทำ Business Process Redesign and Improvement  โดยจะทำการศึกษากระบวนการทางธุรกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แล้วทำการเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุง แก้ไข รวมทั้งการออกแบบกระบวนการทางธุรกิจใหม่  รวมทั้งให้คำปรึกษาและร่วมกับองค์กรในการผลักดันให้มีการลงมือปฎิบัติจริงตามแผน
  • การบริหารต้นทุน โดยให้คำปรึกษาในด้านต่าง ๆอาทิเช่น การคำนวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ การวิเคราะห์ต้นทุน และ การทำโครงการลดต้นทุน เป็นต้น โดยใช้แนวคิดและเครื่องมือต่างๆที่เหมาะสม และส่งเสริมให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
  • การปรับปรุงคุณภาพของสินค้าและบริการ โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆเช่น Statistical Quality Control รวมถึงการจัดทำโครงการในการปรับปรุง แก้ไขปัญหาคุณภาพโดยการมีส่วนร่วมของบุคลากรที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง
  • การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์(Product Design and Development) ให้คำปรึกษาในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยแนวคิดและกระบวนการที่ชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าองค์กรจะสามารถออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้สำเร็จ ตรงตามความคาดหวัง

Our High Impact Consulting Approach 
ที่ปรึกษาจาก Total Qualinet จะทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษา และเสนอแนะแนวทางต่าง ๆที่จำเป็นต่อการปรับปรุงผลการดำเนินธุรกิจขององค์กร     พร้อมการมีส่วนร่วมในการลงมือและติดตามผลการปฎิบัติโดยใช้แนวทางต่าง ๆที่เหมาะสมดังนี้
  •  การให้คำปรึกษา และข้อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงองค์กรทั้งในลักษณะของ Consulting และ Coaching โดยนอกเหนือจากการปรับปรุงงานด้วยเทคนิคแนวทางต่าง ๆทั้งในด้าน Technical และ Non-Technical  แล้ว  ที่ปรึกษายังทำหน้าที่ในการผลักดัน กระตุ้นการเรียนรู้ทั้งในระดับบุคคล หน่วยงาน  และองค์กรซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรงขึ้นมา
  • การฝึกอบรมทั้งในด้านของทฤษฎีและการประยุกต์ใช้    รวมถึงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยกรณีศึกษาต่าง ๆ จากทั้งองค์กรที่ประสบความสำเร็จ  และความล้มเหลวในรูปของ Case Study Paper และ Video Learning Casesซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถมองเห็นภาพการปรับปรุงธุรกิจในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
  • การทำการประเมิน(Assessment)อย่างเหมาะสมในระหว่างการดำเนินงานตามโครงการเพื่อประเมินถึงความก้าวหน้าและประสิทธิผลในการดำเนินการ พร้อมเสนอแนะแนวในทางการปรับปรุง แก้ไข 
ตัวอย่างผลงานการให้คำปรึกษาแก่องค์กรต่าง ๆ

กรณีศึกษาที่ 1
การสร้าง และพัฒนาระบบการจัดการ(Management System)ที่แข็งแรงและสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ขององค์กร   ทำการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยต่อยอดจากระบบที่มีอยู่เช่น ISO9001, ISO14001 รวมถึงการพิจารณาเลือกใช้แนวคิด ระบบการบริหารและเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้เช่น Hoshin Kanri และ TPM  เป็นต้น ส่งผลทำให้องค์กรสามารถเพิ่มยอดขายได้ 2 เท่าภายใน 4 ปี มีระบบการบริหารต้นทุนที่แข็งแรง และมีผลกำไรตามเป้าหมาย รวมทั้งสามารถขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ


  กรณีศึกษาที่ 2

การปรับปรุงเพื่อแก้ปัญหาการขาดทุนขององค์กร โดยดำเนินการวิเคราะห์ และแก้ไข Business Modelใหม่ ทำการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจเพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้า และทำให้มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ มีการพัฒนาสินค้าใหม่ที่สอดคล้องตรงตามความต้องการของตลาด    รวมถึงการปรับปรุงให้มี Cash Flow ที่เพียงพอต่อการดำเนินงาน

นอกจากนั้นแล้วการให้ความสำคัญต่อ Management and Leadership Development ยังส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมองค์กร ทำให้การทำงานในลักษณะของ Cross Functional Team เป็นไปอย่างแข็งแรง  มีการสื่อสารที่ดีขึ้น ส่งผลทำให้องค์กรสามารถแก้ปัญหาการขาดทุนและเริ่มมีผลกำไรในเวลา 18 เดือน

กรณีศึกษาที่ 3
การปรับปรุงกระบวนการในออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่(New Product Design and Development) โดยนอกจากจะให้ความสำคัญต่อ Product Design และProcess Design แล้วยังดำเนินการให้มีการเตรียมความพร้อมที่ดีในด้านของการตลาดและการขาย ส่งผลทำให้สามารถพัฒนาและนำสินค้าออกสู่ตลาดได้ทันตามแผนงาน รวมทั้งมียอดขายและMarginเป็นไปตามเป้าหมาย

กรณีศึกษาที่ 4
การปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการในงานที่ต้องใช้ความชำนาญทางด้านแรงงานสูง โดยการพัฒนากระบวนการสอนงานOJTที่มีการวัดและเฝ้าระวังผลอย่างต่อเนื่อง   รวมถึงการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจเพื่อให้สามารถบรรลุถึงเป้าหมายที่กำหนดขึ้นเช่น Perfect Deliveryและการเพิ่มผลผลิตทางด้านแรงงาน(Labor Productivity Improvement)  เป็นต้น  ส่งผลทำให้สามารถสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า   ทำให้องค์กรสามารถเพิ่มยอดขาย เพิ่มส่วนแบ่งตลาด   สามารถบริหารต้นทุนและมีผลกำไรตามเป้าหมาย รวมทั้งทำให้มี Employee Satisfaction สูงขึ้น


กรณีศึกษาที่ 5
การปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อทำการลดของเสียอย่างต่อเนื่องให้เหลือน้อยกว่า 500 ppm (0.05%) โดยการปรับปรุงงานในด้านต่าง ๆอาทิเช่น

  • การจัดทำมาตรฐานการปฎิบัติงานที่ชัดเจน
  • มีการสอนงานอย่างถูกต้อง
  • มีการนำกระบวนการและเครื่องมือทางสถิติเช่น SPC เข้ามาใช้ควบคุมกระบวนการ
  • การทำ Pokayoke (Mistake-Proofing)
  • การปรับปรุงความแข็งแรงของการบริหารงานประจำวัน
  • การส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมอย่างจริงจังผ่านโครงการต่าง ๆเช่น ZD7(โครงการรณรงค์เพื่อให้ของเสียเป็นศูนย์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน)  เป็นต้น
โดยนอกเหนือจากการลดของเสียลงได้ตามเป้าหมายแล้ว   ยังส่งผลดีในการสร้างแรงจูงใจต่อพนักงาน รวมถึงทำให้เกิดการทำงานร่วมกันเป็น Team อีกด้วย